NOOYOO Special Talk
ออย คนธรัตน์ เตชะไตรศร
“give.me.museums”
ครั้งนี้เป็นครั้งแรกของนูยูที่พาตัวเองใกล้ชิดกับวงการศิลปะมากกว่าที่เคย จากจุดเริ่มต้นของความคิดเล็ก ๆ ที่ว่า นี่น่าจะถึงเวลาแล้วที่เราจะจับมือกับใครสักคน เพื่อทำอะไรพิเศษที่ต่างจากที่นูยูเคยทำ การพาเค้าคนนั้นเข้ามาร่วมแคมเปญอะไรสักอย่างกับเราโดยที่ไม่ลดทอนความเป็นตัวตนของทั้งเค้าและเราก็ไม่ใช่เรื่องง่ายสักเท่าไหร่ แต่อยู่ดี ๆ ชื่อของ give.me.museums ก็ผ่านกลางวงสนทนาเข้ามา ด้วยเหตุที่ว่าน้องเล็กในทีมเป็นแฟนคลับตัวยงของงานทุ่งหญ้า ป่าเขา และดอกไม้ ซึ่งเป็นศิลปะเอกลักษณ์เฉพาะจากฝีมือของ ออย คนธรัตน์ เตชะไตรศร สาวสดใสที่นูยูจะพาเธอมาให้ผู้อ่านได้ทำความรู้จักกันในบทความนี้
และไม่แน่… ว่าคุณก็อาจจะตกหลุมรักงานของเธอเหมือนกันกับเราไปอย่างไม่รู้ตัว
ออย คนธรัตน์—จากความอยากทำสติกเกอร์เซ็ตในลายของตัวเองมาใช้เอง แต่ด้วยการผลิตต้องทำเยอะจนใช้ไม่หมดจึงไปฝากขายที่ happening shop ที่หอศิลป์ฯ จากนั้นก็เริ่มมีคนสนใจงานและติดต่อกลับมา นั่นคือจุดเริ่มต้นของ give.me.museums และกลายเป็นชื่อแบรนด์ที่หลายคนคุ้นหูกันในเวลาต่อมา
นิทรรศการเดี่ยวครั้งแรกของคุณออยเกิดขึ้นเมื่อปี 2565 โดยถูกตั้งชื่อให้เก๋ ๆ ว่า blooming home ที่แค่ฟังชื่อก็เบิกบานไปก่อนแล้ว ถัดมาปลายปี 2566 give.me.museums ก็ได้มีอีเวนต์เป็นของตัวเองครั้งแรกบนไอเดียที่อยากให้มิวเซียมเป็นที่ไม่สงบเงียบประมาณเจอเพื่อนแล้วทัก เฮ่! เสียงดังได้แบบไม่ต้องเขินใคร hey! museum : tinybloom จึงถูกยกให้เป็นชื่องานในครั้งนี้
give.me.museums ได้มีโอกาสสร้างสรรค์งานศิลปะร่วมกับแบรนด์ดังหลากหลาย อาทิ กระเป๋าพรีเมี่ยมของ LA ROCHE POSAY, ลายบนฉลากขวดน้ำแร่ Minere, สวนดอกไม้ในอีเว้นต์ของ LAZADA ฯลฯ ซึ่งด้วยผลงานสุดเก๋และเป็นที่รักของแฟน ๆ ขนาดนี้ ก่อนงาน hey! museum ไม่กี่เดือน เธอก็ได้รางวัลอินฟลูเอนเซอร์ยอดเยี่ยมแห่งปี สาขา Art & Design จาก Thailand Influencer Awards 2023 ไปครอง
เกริ่นมายาวขนาดนี้ ลองมาฟังเรื่องราวของเธอผ่านตัวเธอเองกันบ้าง 🙂
คุณออยเข้ามาสู่เส้นทางของงานศิลปะได้อย่างไร
จุดเริ่มต้นในการวาดภาพของเราคือตั้งแต่เด็ก ๆ เลย น่าจะใช้สีเทียนวาดกำแพงบ้าน แล้วก็วาดมาเรื่อย ๆ ตอนอนุบาลเรียนวาดรูป ประถม มัธยม ประกวดวาดรูปมาตลอด มหาลัยวาดน้อยลงมากเพราะอยากลองอะไรใหม่ โดยเฉพาะศิลปะศาสตร์อื่น ๆ นอกจากการวาดภาพ ตอนเรียบจบใหม่ ๆ เป็นครีเอทีฟอยู่เอเจนซี่โฆษณา สนุกดี แต่ตัวงานค่อนข้างหนัก ต้องใช้ความคิดเยอะและคิดตลอดเวลาทำให้เครียด จึงกลับมาหาคอมฟอร์ทโซนของตัวเองคือการวาดรูปให้ผ่อนคลาย พอวาดไปวาดมาเริ่มอยากใช้สิ่งของที่เป็นภาพวาดของตัวเอง เพราะชีวิตช่วงนั้นเท่เลย แต่งตัวคุมโทนขาว-ดำ แบบชาวเอเจนซี่ ไป ๆ มา ๆ เริ่มรู้สึกไม่ค่อยเป็นตัวเอง เลยเริ่มทำของออกมาใช้เอง จากนั้นก็ต่อยอดออกมาเป็นแบรนด์จนถึงทุกวันนี้
แนวศิลปะที่ชอบคืออะไร มีใครเป็นแรงบันดาลใจไหม
จริง ๆ ชอบหลายสไตล์มากเลยค่ะ ยิ่งศึกษาประวัติศาสตร์ศิลปะแล้วคือชอบหมดเลย แต่ละอันมีแนวคิดของตัวเองที่แข็งแรงและใหม่มาก ๆ ในยุคนั้น แนวที่ชอบกับศิลปินที่ชอบบางอันก็ไม่ได้สอดคล้องกัน 5555 แต่ถ้าต้องเลือกจริง ๆ ก็ชอบ movement Post/Impressionist, pop art, surrealism ศิลปินที่เป็นแรงบันดาลใจก็มีหลายคน เช่น Claude Monet, Vincent Van Gogh, Leonado Da Vinchi, Pablo Picasso, Marcel Duchamp และ Salvador Dali
ทำไมต้อง give.me.museums และแนวคิดของ give.me.museums คืออะไร
จริง ๆ แล้วเราปรับมาจากคำพูดของปิกัสโซ่ว่า Give me a museum and I’ll fill it. ให้มัน catchy ขึ้น จำง่ายขึ้น ไม่แน่ใจว่าปิกัสโซ่ให้ความหมายกับประโยคนี้แบบไหน แต่สำหรับเราคิดว่ามิวเซียมเป็นแค่สัญลักษณ์ของพื้นที่แสดงออกทางศิลปะ ซึ่งจริง ๆ แล้วศิลปะสามารถอยู่ตรงไหนก็ได้ ชื่อนี้จึงทำหน้าที่เรียกร้องพื้นที่ของศิลปะให้เข้าถึงได้ทุกคน ไม่ใช่จบที่แคนวาสหรือกระดาษและหอศิลป์ ศิลปะควรเป็นอะไรที่จับต้องได้ ไม่ใช่ของสูงแบบที่ต้องมีเงินเยอะ ๆ เท่านั้นถึงจะได้เป็นเจ้าของ give.me.museums นำงานศิลปะมาเบลนด์เข้ากับของใช้ในชีวิตประจำวันคุณภาพดีแต่ราคาจับต้องได้ เช่น กระเป๋า หมวก ผ้าพันคอ ฯลฯ เพื่อให้งานศิลปะอยู่ได้ทุกที่ ทุกเวลา ไม่จำกัดรูปแบบและสามารถเป็นเจ้าของได้ทุกคน
give.me.museums ในวันแรกและตอนนี้ เปลี่ยนไปบ้างไหม ภาพอนาคตของ give.me.museums เป็นอย่างไร
เรารู้สึกว่าด้วย core idea ของ give.me.museums ทุกอย่างเหมือนเดิมหมดเลย อาจจะมีมุมมองบางอย่างที่โตขึ้น สเกลใหญ่ขึ้นนิดหน่อยจากตอนแรก ส่วนในอนาคตอยากให้ give.me.museums กลายเป็น unisex brand โดยที่เราไม่ได้ลดทอนความสีสัน ความดอกไม้ หรือเปลี่ยนแปลงสไตล์ตัวเองเพื่อให้เข้ากับคำว่า ‘unisex’ ของคนส่วนใหญ่ อยากให้ GMMS ช่วยสร้าง perception ให้คนที่ชอบของที่มีความ feminine กล้าใช้กล้าใส่ในแบบของตัวเองได้อย่างมั่นใจ ไม่ว่าจะเป็นเพศไหนก็ตาม
มีอะไรที่ give.me.museums อยากทำแต่ยังไม่ได้ทำบ้าง
อยากทำโรงเรียนสอนศิลปะฟรี ๆ แต่รอพร้อมกว่านี้ก่อนค่ะ ฮือ 55555
ในฐานะคนที่ต้องใช้ความคิดสร้างสรรค์และจินตนาการในการทำงาน เคยรู้สึกคิดอะไรไม่ออกบ้างไหม แล้วถ้าเป็นแบบนั้น คุณออยมีวิธีจัดการความคิดอย่างไร
มีช่วงที่คิดงานไม่ออกบ้าง วิธีแก้แบบระยะยาวของเรา คือพยายามรักษาสภาพกายและใจตัวเองให้ดีอยู่ตลอด ถ้าสองอย่างนี้ยังดีอยู่เรื่องคิดงานและทุก ๆ เรื่องจะไม่ค่อยมีปัญหาค่ะ และประเมินตัวเองเพื่อป้องกันปัญหาแต่แรกว่างานนี้เราทำไหวมั้ย ไหวที่สโคปแค่ไหน เวลาเท่าไหร่ แต่ถ้าเกิดคิดไม่ออกจริง ๆ เรามีวิธีแก้สองทางคือ
1. เลิกคิด ยิ่งฝืนยิ่งตัน ยิ่งได้งานไม่ดี พักให้สมองโล่ง refresh เหมือนคอมที่ได้ restart 5555
2. อย่าเขินที่จะขอความช่วยเหลือบ้าง
จากเด็กหญิงวัยเรียน เข้าสู่ชีวิตการทำงาน และตอนนี้กลายมาเป็นศิลปินคนนึง อยากให้แชร์โมเม้นต์ที่ตัวเองชอบหรือประทับใจในแต่ละช่วงของชีวิตหน่อยจะได้หรือเปล่า
วัยเรียน—ชอบที่ได้ทดลองและค้นหาตัวเอง เป็นวัยที่รู้เลยว่าตัวเองไม่ชอบเรียนหนังสือในห้อง แต่สนุกที่จะเรียนรู้จากการลองทำจริง ๆ เข้าร่วมกิจกรรมและได้ลองอะไรใหม่ ๆ เยอะมาก เป็นแบบนี้มาตลอดตั้งแต่ ประถม-มัธยม-มหาลัย
วัยทำงาน—ชอบที่ไม่รู้อะไรเลย ตอนเริ่มทำงานใหม่ ๆ ทุกอย่างที่เคยทำมาเหมือนเริ่มต้นใหม่ สังคมใหม่ ระบบใหม่ ปรับตัวใหม่หมด ซึ่งชอบความรู้สึกนี้มาก ๆ เป็นช่วงที่ทำให้รู้ว่าเราไม่รู้อะไรเลย เหมือนโลกนี้มันกว้างมาก ๆ และมีหลายอย่างรอให้เราไปเจอ
ปัจจุบัน—ชอบที่ได้ทำตามฝัน ตอนเด็ก ๆ เคยอยากเป็นศิลปิน แต่ก็อยากเป็นนักธุรกิจ แล้วก็ได้เที่ยวเยอะ ๆ และไม่เคยคิดว่าทุกอย่างนี้จะสามารถเป็นจริงและรวมอยู่ใน give.me.museums ได้ ทุกวันนี้เราเที่ยวเพื่อให้ inspired แล้วมาทำงานศิลปะ หลังจากนั้นเอางานศิลปะมาต่อยอดเป็นธุรกิจ ครบลูป เหมือนฝันเป็นจริงเลยค่ะ
เคยคิดไหมว่าในวันนึงจะเป็นศิลปินที่มีแฟนคลับที่รักกันมากมายขนาดนี้ อยากฝากอะไรถึงแฟนคลับบ้าง
ขอบคุณมาก ๆๆๆๆๆๆ เลยค่ะ พูดบ่อยมาก พิมพ์บ่อยมาก แต่ขอบคุณจริง ๆ ทุกคนน่ารักกับเรามาก ไม่มีทางมีวันนี้ได้ถ้าไม่มีทุกคน
อยากรู้จัก give.me.museums ให้มากกว่านี้
Facebook give.me.museums
Instagram give.me.museums
TikTok @give.me.museums